//=time() ?>
และด้วยความที่ของในห้องที่มิกุอยู่ มันเต็มไปด้วยของส่วนตัวของรุยคุงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นชุดแสดง แบบแพลนหุ่นยนต์ หรือโดรนของรุยคุง ลูกโป่ง ลูกแก้วหิมะที่มีจรวดประดับอยู่
คิดว่าที่มิกุได้มาอยู่ที่นี่ก็คงเป็นเพราะว่า มิกุเป็นเพียงคนเดียวในอีเว้นต์นี้ที่รุ้เรื่องทั้งหมด
มาต่อกันที่การ์ดใบสุดท้ายคือการ์ดของมิกุ ใบนี้นาฬิกาทรายจะอยู่ในมุมมืดที่แทบจะมองไม่เห็นเลย
อีกจุดนึงที่เห็นคนพูดถึงอยู่แล้วน่าคิดคือ เวทีของสึคาสะคุงค่อนข้างคล้ายกับที่ๆ เนเนะจังอยู่ในการ์ด แต่ไม่มีนาฬิกาทราย
อาจจะเป็นเพราะว่าเนเนะเริ่มปรับตัวกับความกลัวของตัวเองได้บ้างแล้ว สีคาสะคุงก็กำลังจะปรับตัวกับการขาดสกิลของตัวเองแล้วตามไป
หรือในอีกทางก็อาจจะเพราะมีแค่สึคาสะคุงคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับรุยคุงเลย เลยมีสีหน้าที่ต่างจากเพื่อนๆก็ได้
บันไดในการ์ด เป็นเปียโนด้วย อันนี้คาดเดาว่าหนึ่งในเส้นทางสตาร์ของสึคาสะคุงอาจจะมีดนตรีเข้ามาช่วย???
มีหลายเรื่องที่คิดสำหรับสีหน้าในการ์ดใบนี้ เพราะสึคาสะคุงในอีเว้นต์นี้ ไม่ว่าจะเจอความยากลำบากแค่ไหนก็ยิ้มสู้ หมั่นฝึกฝนเพื่อพัฒนาตัวเองจนทำได้ ถึงจะกดดันกับความต่างชั้นแต่ก็สนุกในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไปพร้อมๆกัน
ถัดมา นาฬิกาที่เล็กที่สุดในบรรดาเด็กๆทุกคนก็คือของสึคาสะคุง
มีขนาดเล็กกว่าตัวเองและหันหลังให้ ทำให้เห็นว่าสึคาสะคุงยังไม่ได้ใส่ใจกับมันเท่าไหร่ และในตอนนี้เวลายังไม่เป็นปัญหา
การที่มีนาฬิกาทรายอยู่ด้วยอาจจะเป็นเพราะรุยคุงทักสึคาสะคุงเรื่องในอนาคตในช่วงท้ายของอีเว้นต์ก็ได้
ถึงอย่างนั้นก็จะเก็บเกี่ยวและให้ความสำคัญกับช่วงเวลานี้ ให้ได้มากที่สุด เป็นสาเหตุของสีหน้าเนเนะในการ์ดใบนี้สำหรับเรานะ
และเป็นสาเหตุที่การ์ดเนเนะจังออกไปในโทนสว่างต่างจากรุยคุงด้วย เนเนะจังในตอนนี้ไม่ได้มองมันเป็นเรื่องที่เลวร้ายเลย
นอกจากนี้ทรายในนาฬิกาทรายยังเท่ากันอยู่นะ
นาฬิกาทรายที่ใหญ่รองลงมาคือของเนเนะจัง
มีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวเองและมองตรงไปยังนาฬิกาทรายด้วย แสดงให้เห็นว่า เนเนะจังเองก็รับรู้ได้ถึงขีดจำกัดเวลาตรงนั้น และกำลังมองมันอย่างตรงไปตรงมา
ถึงสีหน้าจะเศร้าดูเหงาๆแต่ก็มองมันด้วยรอยยิ้ม