//=time() ?>
ต่อมาเป็นการ์ดของมาฟุยุ ที่กำลังมองไปยังร่มที่คว่ำอยู่ที่พื้นข้างๆ รอบๆ ร่มนั้นก็มีดอกกุหลาบ ที่เปลี่ยนสี 1 ดอกอยู่ด้วย
สีหน้าของมาฟุยุดูเหมือนจะกำลังมองมันแล้วคิดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้ยื่นมือไปแตะมันหรือทำอะไร ท่าทางของมาฟุยุที่เอาแขนไขว้ตัวเอง ก็ค่อนข้างจะเป็นภาษากาย+
โดยสรุปก็คือคิดว่าตอนนี้ด้วยความที่พี่ไคโตะมีข้อมูลไม่พอก็เลยยังปะติดปะต่ออะไรไม่ได้เลย นอกจากรู้ว่ามิซึกิอาจจะกำลังเจ็บปวดกับบางอย่างอยู่
ริบบิ้นอยู่รอบตัวพี่ไคโตะแต่ก็ขาดเป็นเส้นๆ ทำให้รู้สึกว่าตอนนี้ตัวพี่ไคโตะนั่นแทบไม่ได้รู้เรื่องหรือเข้าใจอะไรที่เกี่ยวกับมิซึกิเลยนอกจากว่ามันทำให้มิซึกิกำลังทรมานอยู่
ไม่รุ้ว่าเกี่ยวกับอะไร แล้วเพราะปรากฏตัวช้ากว่าคนอื่นทำให้ไม่เคยได้สัมผัสในตอนที่เคยเกิดเหตุบางอย่างด้วย
สี่ดาวคนถัดมา พี่ไคโตะ
สีหน้าเคร่งเครียด ริบบิ้นยังเป็นสีขาวอยู่ ขาดเป็นเส้นๆ แถมเป็นรอยฉีกด้วย ดอกกุหลาบไม่มาเป็นดอก แต่มาเป็นกลับ แต่สีแดงค่อนข้างชัดเจน
แถมสีน้ำยังขุ่นด้วย ไม่ได้สะท้อนอะไรกลับมา ต่างจากการ์ดสามดาวของมิซึกิ
ทำให้รู้สึกว่าเอนะในตอนนี้ ทั้งยังเข้าไปหามิซึกิไม่ได้และยังไม่ได้เข้าใจจิตใจของมิซึกิได้อย่างเต็มที่
ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากเข้าใจเลยกำมันไว้ในมือไม่ยอมปล่อย และมีสีหน้าเจ็บปวดราวกับอยากจะเข้าไปหาด้านในนั้น
การ์ดของทั้งสามคนมีจุดร่วมอยู่ที่มีริบบิ้นสีขาวอยู่ แม้ว่าริบบิ้นในการ์ดบางส่วนจะถูกย้อมสีจนกลายเป็นสีแดงไปแล้ว
ถ้านับสีแดงเป็นความเจ็บปวด หรือเรื่องที่มิซึกิแบกเอาไว้ในใจ
จากสีหน้าและสถานที่รวมถึงสีของริบบิ้น เอนะในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นคนที่เห็นความเจ็บปวดของมิซึกิชัดที่สุด
การ์ดของเอนะเหมือนกับการ์ดสามดาวมิซึกิในจุดที่อยู่บนกระจก ดูเหมือนจะตื้น เพราะตัวหรือชุดไม่จมเลย แต่กลับมีรอยกระเพื่อมของน้ำ
แต่มีจุดต่างจากตรงที่ว่า ริบบิ้บกลับจมลงไปได้ แถมยังจมลึกด้วย เท่ากับว่าไม่ใช่น้ำตื้น แต่เอนะไม่สามารถผ่านมันลงไปได้
การ์ดของเอนะรอบนี้ทำให้นึกถึงการ์ด 3 ดาวเริ่มต้นของมิซึกิที่สะท้อนให้เห็นถึงอีกตัวตนนึงที่แตกต่างจากการแสดงออกปกติของมิซึกิ
ดูจากความหมายของชื่อเพลงแล้วก็เข้ากับ 化けの花 มากเหมือนกัน
มันน่าจะเล่นคำมาจากคำว่า 化けの皮 ที่หมายถึงการแสดงออกบางอย่างเพื่อปกปิดตัวตนด้านใน
ต่อมา มาที่การ์ดของเอนะ
การ์ดของเอนะรอบนี้ เอนะมองเข้าไปยังพื้นน้ำด้วยสีหน้าเจ็บปวด ในมือกำริบบิ้นสีแดงฉานเอาไว้แบบไม่ยอมปล่อย มืออีกข้างเหมือนอยากจะเอื้อมไปคว้าริบบิ้นที่จมลงไปขึ้นมาแต่ทำไม่ได้
และการ์ดรอบนี้ มิซึกิเองก็หันหลังให้กับแสงสว่างด้วย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตอนนี้มิซึกิน่าจะยังกลัวและยังไม่อยากรับรู้อะไรอยู่ ณ ขณะนี้นะคะ
จริงๆมีอีกอย่างที่คิดเกี่ยวกับท่ายืนของมิซึกิแต่ตรงนี้ละไว้แล้วกัน.....